Address
317 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
Contact
website :
02-354-7826
ค่าเทอม
ค่าเทอม (ต่อปีการศึกษา)
ปี 3 38300 บาท
ปี 4 39200 บาท
ปี 5 37800 บาท
ปี 6 54000 บาท
ทุนการศึกษา
Email : pcm.official@pcm.ac.th
คุณสมบัติผู้รับสมัครทุนการศึกษา
-
ผู้มีความประพฤติดี
-
ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
-
ผลการศึกษา เรียนดี
-
ขาดแคลนทุนทรัพย์ (สำหรับบางทุน)
-
ทุนการศึกษา ได้แก่
-
ทุนโครงการรางวัลเยาวชนสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล
-
ทุนมูลนิธิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม
-
ทุนมูลนิธิโอสถสภา
-
ทุนมูลนิธิศรีวิศาลวาจา
-
ทุนมูลนิธิวิบูล อายุรเวท
-
ทุนมูลนิธิจงกลณีนิธิ
-
ทุนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
-
ทุนบุญรอดพัฒนานิสิตนักศึกษา
(บริษัทบุญรอดบริเวอรี่ จำกัด)
-
ทุนบริษัท NOZOMI ENTERPRISE THAILAND จำกัด
-
ทุนบริษัท มัดชาเซอร์วิส จำกัด
-
ทุน Vivien Slot Foundation
-
ทุนผู้มีอุปการะคุณ อื่นๆ
รางวัลการศึกษาแต่ละชั้นปี
-
รางวัลเหรียญทอง (เรียนดี ประพฤติดีตลอดหลักสูตร)
-
รางวัลเหรียญเงิน (เรียนดี ประพฤติดีตลอดหลักสูตร)
-
รางวัลการศึกษายอดเยี่ยม รายวิชา
-
รางวัลการศึกษาดีเด่น รายวิชา
-
รางวัลการศึกษาอื่นๆ
"วิชายอด วินัยเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม"
จุดเด่นในคณะ
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าเป็นสถาบันผลิตแพทย์ชั้นนำของกองทัพในภูมิภาคเอเชียที่มุ่งสร้างผู้นำรุ่นใหม่เพื่อสุขภาพโลก โดยเป็นสถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวในประเทศไทย
ก่อตั้งเป็นสถาบันแพทยศาสตร์ลำดับที่ 7 ของประเทศ
จากกระแสพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร
มหาภูมิพลอดุลยเดช โดยดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก และดำรงสถานะสถาบันสมทบของมหาวิทยาลัยมหิดล
ใน 1 ปี จะเปิดรับรับสมัครจำนวน 110 คน (ชาย 65 คน - รับทุนกองทัพบก 20 คน , หญิง 45 คน) ในชั้นเตรียมแพทย์ (ปี 1) จะศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปรีคลินิก (ปี 2-3)
มีการจัดการเรียนการสอน ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ชั้นคลินิก (ปี 4-6)
ใช้สถานที่ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 3 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้ปริญญา แพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.)
ของมหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้จะมีการจัดวิชาทหารและเวชศาสตร์ทหารในหลักสูตร เช่น การฝึกพื้นฐานทางการทหาร ทักษะทางการแพทย์ในสนามรบ และปฏิบัติการเพชราวุธ
ประวัติสถาบัน
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นสถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวของกองทัพ เป็นหน่วยขึ้นตรงของศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระกระแสพระบรมราชาโชวาทในคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงดนตรี ณ หอประชุมราชแพทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๑๖ ถึงความสำคัญของแพทย์ทหารและความจำเป็นที่ทางราชการทหารจะต้องจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นเองจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า ๔๘ ปี แล้วที่ วพม. ได้ผลิตบัณฑิตแพทย์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่กองทัพละประเทศชาติ ผลผลิตของ วพม. ได้ปฏิบัติหน้าที่และผลงานต่างๆ ไว้มากมายทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เป็นประโยชน์และนำมาซึ่งชื่อเสียงแก่กองทัพและประเทศชาติโดยเฉพาะจุดยืนที่โดดเด่นในความเป็นแพทย์ที่เข้มแข็ง มีระเบียบวินัย สามารถปฏิบัติงานได้ทั้งในยามปกติและในยามสงคราม ทำให้ได้รับการนับถือจากบุคคลทั่วไป ภายใต้การนำของผู้บังคับบัญชาและความมุ่งมั่นของบุคลากรทุกระดับที่มีความพร้อมในทุกด้านเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศทางด้านการศึกษา การวิจัย การบริการ วิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของสถาบัน
ข้อมูลการสอบเข้า
-
TCAS รอบที่ 3 (Admission 1) จำนวน 110 คน แบ่งเป็นชาย 65 คน หญิง 45 คน
สรุปชีวิตการเรียน
Pre-clinic (ปี 1-3)
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
-
ปี 1 เป็นปีที่แรกแห่งวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า มีสถานะเป็น “นิสิตเตรียมแพทย์” ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งจะเรียนรู้เรื่องราวของความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิชาชีพแพทย์ เช่นวิชาเซลล์วิทยา ชีวสถิติ โดยลักษณะการใช้ชีวิตจะเหมือนนิสิตนักศึกษาทั่วไป
-
ปี 2 เป็นชั้นพรีคลินิกซึ่งจะควบคู่ไปกับการฝึกปรับสภาพให้คุ้นชินกับระบบทหารและลักษณะการใช้ชีวิตของวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ซึ่งในปีนี้จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเนื้อหาทางการแพทย์มากยิ่งขึ้น เช่น การศึกษาในรายวิชา กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา ฯลฯ โดยจะมีลักษณะการเรียนเป็นบล็อค รวมถึงการผ่าอาจารย์ใหญ่
-
ปี 3 เป็นชั้นพรีคลินิกปีสุดท้ายซึ่งจะได้เรียนเนื้อหาความรู้ที่ลึกยิ่งมากขึ้นเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ความผิดปกติในร่างกายของมนุษย์ ยาที่ใช้ในการรักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงในปีนี้จะมีความพิเศษคือ จะมีการออกชุมชน โดยภาควิชาเวชศาสตร์ทหารและชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ภายในชุมชน
Clinic (ปี 4-6)
-
ปีที่ 4 น้อง ๆ จะก้าวเข้าใกล้ความเป็นแพทย์มากขึ้น เรียกว่าการขึ้นคลินิก โดยจะมีการเรียนการสอนที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เรียนทั้งหมด 4 วอร์ดหลัก ได้แก่ สูติศาสตร์ ศัลยศาสตร์ อายุรศาสตร์ และกุมารเวชศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีวิชาเวชศาสตร์ทหาร และยังมีการฝึกร่วม ซึ่งได้เรียนรู้บทบาทของแพทย์ทหารในกองทัพอีกด้วย
-
ในชั้นปีที่ 5 น้อง ๆ จะได้ขึ้นวอร์ดย่อยต่าง ๆ เช่น จักษุ โสต ศอ นาสิก เวชศาสตร์ฟื้นฟู นิติเวช และวิสัญญี
-
สำหรับในชั้นปีที่ 6 นอกจากการเรียนการสอนบนวอร์ดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าแล้ว จะมีการวนนอก คือ การไปฝึกงานที่โรงพยาบาลเครือข่ายตามจังหวัดต่าง ๆ ส่วนด้านทหาร จะมีการฝึกภาคสนาม เรียกว่า ปฏิบัติการเพชราวุธ ซึ่งเป็นการฝึกสถานการณ์จำลองการเคลื่อนย้ายและรักษาผู้ป่วยจริงในสนามรบ