top of page
21.png

Address

Contact

ค่าเทอม

เลขที่ 110 ถ.อินทวโรรส ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50200

ปี 1 รายเทอม 20,000 บาทต่อเทอม

ปี 2-6 รายปี 40,000 บาทต่อปี

0-5393-6150

  • Youtube
  • TikTok
  • Instagram
  • Facebook

ทุนการศึกษา

ทุนการศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่สำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

ทุนเรียนดีระหว่างเรียน

ทุนสนับสนุนเพื่อพัฒนานักศึกษาแพทย์ โครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ

คุณสมบัติ (โดยย่อ)

- เป็นผู้ประสบปัญหาด้านทุนทรัพย์ในการศึกษา

- เป็นผู้มีความประพฤติดี

- เป็นนักศึกษาและไม่อยู่ในระหว่างพักการเรียน

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

*สามารถติดตามข้อมูลด้านทุนการศึกษาเพิ่มเติมได้ทาง

https://w1.med.cmu.ac.th/edserv/student-affair/student-about/scholarships/

ค่านิยม : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เสริมสร้างค่านิยม

E-CMU สนับสนุนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนทางจริยธรรม ประกอบด้วย 10 หัวข้อ ที่บุคลากรและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยึดถือปฏิบัติ ภายใต้อุดมการณ์การมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ การเชิดชูรับใช้สังคม การยึดหลักธรรม และรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ดังนี้

E-Excellence การมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ * มุ่งเน้นคุณภาพความเป็นเลิศ * มุ่งเน้นประสิทธิภาพของงาน * เน้นความคล่องตัว * องค์กรแห่งการเรียนรู้

C-Community Engagement การเชิดชูรับใช้สังคม * สร้างความรักความผูกพันองค์กร * มุ่งเน้นท้องถิ่นและมีความรับผิดชอบต่อสังคม

M-Morality การยึดหลักธรรม * ยึดหลักธรรมาภิบาล * เชิดชูคุณธรรม * พัฒนาจิตอาสา/จิตสาธารณะ/จิตบริการ

U-Unity รวมพลังเป็นหนึ่งเดียว * ทำงานเป็นทีม

วิสัยทัศน์ : มหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม (A Leading University Committed to Social Responsibility for Sustainable Development through Innovation)

สำหรับของคณะแพทยศาสตร์ มีพันธกิจ 3 ด้าน

1.ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เพื่อรับใช้สังคม

2.การสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อชี้นำสุขภาพ

3.การให้บริการด้านสุขภาพ คุณภาพสูง มาตรฐานระดับสากล ทั้งหมดนี้เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงเรียนแพทย์ในดวงใจสำหรับทุกคน เพื่อยกระดับสุขภาวะของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน

" พวกเฮาอู้กำเมืองได้ และบรรยากาศในมหาลัยก็ดีมากก "

จุดเด่นในคณะ

คณะเรามีการเรียนการสอนที่เนื้อหาเข้มข้น มีอาจารย์หลายท่านที่พร้อมจะอธิบายในข้อสงสัย ให้การสนับสนุนด้านวิชาการหลากหลาย เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้ทำวิจัย มีวิชา Research skills ทั้งปี 1, ปี 3 และ ปี 4 ฝึกให้นักศึกษาได้คิด ได้ลงมือทำ สนับสนุนในการแข่งขัน การตีพิมพ์งาน และการส่งเด็กไปแข่ง/ไปเรียนรู้ที่ต่างประเทศ และค่าเทอมเราไม่แพง แต่นอกเหนือจากด้านวิชาการแล้ว คณะเรามีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งดนตรี กีฬา ศิลปะ และอื่น ๆ ที่ตอบสนองต่อความสนใจของนักศึกษาอยู่ตลอดทั้งปี มีสายรหัสที่ใหญ่และอบอุ่น มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่พร้อมจะให้การช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ไม่เฉพาะเรื่องเรียน และ

ที่่สำคัญ เรามีชื่อรุ่นเป็นของตัวเองที่เท่มาก

ประวัติสถาบัน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ทางราชการจัดตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาคของประเทศไทย ตามโครงการพัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค พ.ศ.2501 และคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 3 ของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2502 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งอยู่ ณ ดินแดนล้านนา อันเป็นแหล่งสะสมวัฒนธรรมอันล้ำค่ามานานกว่า 700 ปี มีสภาพภูมิประเทศงดงามท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติ บริเวณเชิงดอยสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

ข้อมูลการสอบเข้า

รอบการเปิดรับสมัครสอบ

TCAS1 (Portfolio) รับ 76 ที่นั่ง ประกอบด้วย

เรียนดีโอลิมปิก [Olympic ](30+5)

แบบที่ 1 รับ 30 ที่นั่ง : [GPAX +Olympic camp]+ Olympic camp + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio

แบบที่ 2 รับ 5 ที่นั่ง : [GPAX +Olympic camp]+ Olympic camp + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio + TGAT1-3 = TGAT(90)

แพทย์นักวิทยาการข้อมูล [Data science] (5+5)

แบบที่ 1 รับ 5 ที่นั่ง : [GPAX +Olympic camp]+ Olympic camp + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio

แบบที่ 2 รับ 5 ที่นั่ง : [GPAX +Olympic camp]+ Olympic camp + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio + TGAT1-3 = TGAT(90)

เรียนดีภาษาอังกฤษ [English] (25+5)

แบบที่ 1 รับ 25 ที่นั่ง : [GPAX]+ ฺBMAT + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio

แบบที่ 2 รับ 5 ที่นั่ง : [GPAX]+BMAT + ENG(TOEFL/IELTS) + Portfolio + TGAT1-3 = TGAT(90)

Sport (1)

[GPAX] + ผลงานทางด้านกีฬา (คอร์สเวิร์ด หมากกระดาน และบริดจ์)

TCAS2 (Quota & CPIRD) รับ 146 ที่นั่ง ใช้ T-score ของ A-level

โควตาภาคเหนือ 17 จังหวัด 50 ที่นั่ง

CPIRD-Community 74 ที่นั่ง

CPIRD-Inclusive 22 ที่นั่ง

  • TCAS3 (Admission) รับ 28 ที่นั่ง ใช้ TPAT-1(30%) + A-level(70%) (ขั้นต่ำ 30%ของแต่ละวิชา)

สรุปชีวิตการเรียน

Pre-clinic (ปี 1-3)

ปี1 - วิชาทั่วไป/เสรีในมหาวิทยาลัย, ภาษาอังกฤษ, Biochem, Human Genetics Development, วิชาพัฒนาทักษะต่าง ๆ, พื้นฐานงานวิจัย, Case discussion ***ไม่มีบังคับเรียนแคล ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ พื้นฐาน*** และตั้งแต่ปี 2 ขึ้นไป ระบบการเรียนจะเปลี่ยนจากแบบเทอมเป็นแบบ module — 1 module มีประมาณ 3 บล็อก(ระบบ) และจะจัดสอบทั้งสามวิชาทีเดียวตอนท้าย module

ปี 2 - Physiology ของทุกระบบร่างกาย เรียนควบคู่ไปกับการเรียน Gross Anatomy, PBL, และแลป ซึ่งจะจัดการเรียนการสอนและการสอบแทรกไปกับทุก module (กิจกรรมกลุ่มมีจัดในทุกบล็อก)

ปี 3- Pathology ของทุกระบบร่างกาย, วิชาวิจัย, TBL

หมายเหตุ: เนื่องจากนศพ.มช. รุ่นแรกที่ได้เรียนในหลักสูตรล่าสุดนี้คือรหัส ‘66 ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาในชั้นปีที่ 2 บางอย่างอาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคต

ในส่วนของกิจกรรม คณะเรามีหลากหลายมาก ๆ พูดทั้งวันก็ไม่หมด ไม่ว่าจะเป็น— Get,Set,Go, งานเปิดโลกกิจกรรม (Club Hopping), รับน้อง, สักการะพระบิดา, แพทยศาสตร์การดนตรี, Freshy Games, CMU-IMC, เฉลยสายรหัส, รับน้องข้ามฟาก-รับหัวเข็มขัด (ปี2) ฯลฯ และงานที่เป็นจุดเด่นของคณะแพทย์มช. ก็คืองาน “เฉลยชื่อรุ่น” ถ้าสังเกตแพทย์มช.จะไม่เรียกกันด้วยเลขรุ่น เพราะเรามีชื่อ ในวันนั้นก็จะมีการแสดงจากชมรมต่าง ๆ และการเปิดมิวสิควีดีโอเพลงรุ่นที่ประพันธ์โดยพี่ ๆ ปี 3 นั่นเอง เป็นการส่งท้ายกิจกรรมรับน้องอย่างเป็นทางการนั่นเอง — และแน่นอนถ้าพูดถึงมช. ก็จะขาดกิจกรรม รับน้องรถไฟ กับ รับน้องขึ้นดอย ไปไม่ได้ เรียกได้ว่ามีให้ทำไม่มีขาดตลอดทั้งปี *ทุกกิจกรรมเลือกเข้าร่วมได้ตามความสมัครใจ*

 

Clinic (ปี 4-6)

เป็นการเรียนรู้และปฏิบัติงานบนวอร์ด เพื่อฝึกการนำความรู้ที่ได้ศึกษามาในชั้น Pre-clinic มาประยุกต์ใช้จริง โดยอยู่ภายใต้การดูแลของอาจารย์ประจำภาค ทำให้สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกับคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ โดยเริ่มมาก็จะมีเป็นพิธีรับเสื้อกาวน์เพื่อเป็นการต้อนรับสู่ชีวิตการเรียนคลินิก มีวิชา Elective ให้เลือกศึกษาเพิ่มเติมได้ตามความสนใจ มีวิชาวิจัย และมีการอยู่เวรตั้งแต่ปี 4 เป็นต้นไป

ปี 4: เน้นเรียนจากที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์ ได้เรียนรู้แต่ละแขนงของแพทย์ โดยเน้นที่ major ward เป็นหลัก ได้ทำหัตถการที่จำเป็นเบื้องต้น

ปี 5 : คล้ายปี 4 แต่ได้เรียนเนื้อหาที่ลึกขึ้น เรียนเกี่ยวกับ minor ward เช่น ER, ENT, นิติเวช, ออโธปิดิกส์ เป็นต้น และเน้นการ management เช่น การดูแลเบื้องต้น การใช้ยา

ปี 6 : ปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์ จะเป็นการฝึกงานเหมือนหมอจริงๆเลย ไม่มีเลคเชอร์ ได้ตัดสินใจและ manage เองทุกอย่าง โดยมีพี่ resident และอาจารย์ให้คำปรึกษา ในปีนี้จะมีการอยู่เวรทั้งคืนอีกด้วย

  • RSS
  • Facebook
  • Instagram
  • Youtube
bottom of page